เมื่อพูดถึงการฟื้นฟูระบบประสาท มีบางสิ่งสำคัญที่ควรจำไว้
อันดับแรก สิ่งสำคัญคือต้องลดภาระอัลโลสแตติก - การสึกหรอสะสมของร่างกายที่เกิดจากความเครียดเรื้อรัง เมื่อระบบประสาทไม่สมดุลเนื่องจากภาระอัลโลสแตติกสูง ร่างกายของเราจะไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างรวดเร็วหรือง่ายดาย วิธีนี้สามารถทำได้โดยการลดปัจจัยเครียดที่ไม่จำเป็น รักษากิจวัตรเย็นและการนอนหลับที่สม่ำเสมอ และให้เวลากับการดูแลตัวเองเป็นประจำ
ประการที่สอง สิ่งสำคัญคือต้องฝึกระบบประสาทให้คุ้นเคยกับสภาวะความนิ่ง ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการฝึกปฏิบัติต่างๆ เช่น โยคะ การทำสมาธิ ไทชิ หรือการฝึกหายใจช้าๆ เมื่อร่างกายของเราคุ้นเคยกับสภาวะความนิ่ง มันจะปิดตัวลงได้ง่ายขึ้นและสามารถเปลี่ยนไปสู่การฟื้นฟูได้ง่ายขึ้น
สุดท้าย สิ่งสำคัญคือต้องยึดเหนี่ยวเข้าสู่สภาวะเวนทรัลเวกัล นี่คือสภาวะพักผ่อนและย่อยอาหารที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทพาราซิมพาเทติก เมื่อเราอยู่ในสภาวะนี้ ร่างกายของเราจะสามารถรักษาและซ่อมแซมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราสามารถยึดเหนี่ยวเข้าสู่สภาวะนี้ได้ผ่านการปฏิบัติต่างๆ เช่น การใช้เวลาในธรรมชาติ การเดินเล่น และการใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวที่รู้สึกปลอดภัยและบำรุงใจเรา
โดยการจดจำจุดสำคัญเหล่านี้ เราสามารถส่งเสริมการฟื้นฟูระบบประสาทอย่างเหมาะสม
Andrew เป็น Co-CEO ที่ NEUROFIT และเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจาก Caltech มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์กว่า 10 ปี ที่มีผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนนับล้านที่ NASA, Snapchat, Headspace, ศูนย์ความฉลาดทางอารมณ์ของ Yale และสตาร์ทอัพด้านสุขภาพของเขาเอง
หลังจากเผชิญกับความเครียดเรื้อรัง การหมดไฟ และ C-PTSD มานานสองทศวรรษ เขาได้เปิดตัว NEUROFIT เพื่อให้เป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และเข้าถึงได้ง่ายสำหรับความท้าทายเหล่านี้